วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ปาย...ปาย กับ นายชินจัง @ Shiwadoi (Part II)



หลังจากเกือบจะหมดวันแรกไปกับการเมาขี้ตาแล้ว เราขี่มอเตอร์ไซด์มาที่ตลาดครับ คึกคักดีจริงๆ ร้านตั้งเต็มไปหมด แต่ไม่สกปรกนะ อากาศเย็นมาก 15 องศาได้มั้ง ตอนขี่รถออกมานี่ต้องใส่ถุงมือ ไม่งั้นไอ้นั่นต้องแข็งแน่ๆ ครับ เอ่อ...นิ้วมือนะครับนิ้วมือ ไม่ใช่อย่างอื่น ผมจอดรถที่บริเวณใกล้กับ สี่แยกปายหนาว แล้วเดินเข้าถนนคนเดินครับ มีร้านเยอะแยะไปหมด ขายอาหาร ของที่ระลึก เครื่องดื่ม ไวน์ผลไม้ ขายโปสการ์ด คึกคักสนุกสนานดี บรรยากาศที่นี่น่ารักครับ เหมือนทั้งเมืองร่วมมือกันจัดสไตล์เดียวกัน มิน่า เค้าถึงเรียกที่นี่เป็นเมืองแห่งความโรแมนติค ความน่ารัก ก็มันน่ารักจริงๆ นะ

เดินหาร้านกินข้าวกันไปเรื่อยๆ ไม่รู้จะเข้าร้านไหนดี ไปเจอร้านนึง บอกว่าเป็นหมูจุ่ม ก็เลยเอาซะหน่อย ก็มันหนาวอ่ะนะ ทุกอย่าง 19 บาท ถูกดีแฮะ เราสั่งเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ ผักรวม แล้วก็ข้าวผัดกุ้งมากินกันครับ อากาศหนาวๆ ได้กินน้ำซุปร้อนๆ โอ้ว สุขโข สุขโข (แอบล้อเลียนนามสกุลคนบางคน อิอิ) หลังจากอิ่มแล้วเราก็ไปเดินเล่นกันต่อครับ มีเสื้อที่เป็นสัญลักษณ์ของปาย มากมายหลายแบบ หมวกไหมพรม ผ้าพันคอ ราคาไม่แพงเลยครับที่นี่ อ่อ...เสื้อตัวละ 139บาท ผมซื้อมา 1 ตัว แล้วก็กางเกงผ้าป่าน 1 ตัว 100 บาท เสื้อเด็กมาให้หลานอีก 1 ตัวราคา 99 บาทครับ



แวะกิน โรตีอาลี ครับเห็นคนเข้าคิวรอซื้อ เลยเอากะเขาด้วย โฮะๆๆ อร่อยดี แต่ผมกินนิดเดียวเพราะไม่ชอบกินหวานเป็นทุนเดิมครับ เราซื้อ บาร์คาดี้ เดินเล่นไปดื่มไป เจอ นักดนตรี เล่นดนตรี มีคุณตำรวจ มาเล่นกีตาร์ร้องเพลงแจมกะเค้าด้วย น่ารักดีครับ เราเดินดูทัวร์ที่จะไปเที่ยวพรุ่งนี้ด้วย ผมตัดสินใจซื้อ short trip ครับแค่ช่วงเช้า ตี5 ไปห้วยน้ำดัง ไปสะพานประวัติศาสร์ บ่อน้ำร้อน คอฟฟี่อินเลิฟ เสียค่าใช้จ่ายคนละ 200 บาทเท่านั้นครับ ผมว่าถูกนะ เหอะๆๆ จากนั้นเราก็กลับที่พักเข้านอนกันเพราะพรุ่งนี้เราต้องตื่นแต่เช้า และผม...เกลียด...การ...ตื่น...เช้า

ตี 4 ครึ่ง คนขับรถนำเที่ยวก็โทรมาบอกว่าอีก 15 นาทีจะถึงหน้ารีสอร์ท พวกผมก็ขึ้นรถแล้วออกเดินทางไปรับผู้โดยสารคนอื่นๆ กันอีกสองที่ใกล้ๆ กันครับ จากนั้นเราก็มุ่งหน้าสู่ อุทยานห้วยน้ำดัง วิ้วววววววววววววว ทะเลหมอกๆ เกิดมายังไม่เคยเห็นกะเค้าเล๊ยยย วันนี้แหละ จะได้เห็นด้วยตาตี่ๆ อันดูดีของเราแล้ววววว







พอไปถึงเป็นเวลาประมาณ 6 โมงครับ พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นพอดี เราก็เฝ้ารอครับ คนเยอะแยะ มารอดูเหมือนกันกับเรา หนาวมากๆครับ ตอนนี้ผมต้องใส่หมวกไหมพรม ถุงมือ เสื้อโค้ช โอยขนาดนี้ยังสั่นเลยครับพี่น้องพูดกันนี่ ฟันออกปาก เอ้ย ควันออกปากเลย ประทับใจ T T พระอาทิตย์ขึ้นเรามองเห็นทะเลหมอก สวยจริงๆ มิน่าคนมากมายถึงยอม เหวี่ยงกันเกือบพันโค้ง เพื่อมาดูช่วงเวลาแบบนี้ มันประทับใจจริงๆ ผมรู้สึกคุ้มที่ได้มาครับ พระอาทิตย์ ทะเลหมอก สวนดอกไม้ อากาศหนาว พร้อมเครื่องดื่มอุ่นๆ มันสุดยอดจริงๆ ครับ

หลังจากชมทะเลหมอก ห้วยน้ำดังกันเสร็จแล้ว เราเดินทางต่อไป บ่อน้ำพุร้อน ไม่ไกลจากห้วยน้ำดังนัก ผมว่ามันเจ๋งนะ ที่ที่อากาศหนาวเย็น กลับมีน้ำร้อนธรรมชาติ แบบนี้ พอเราเดินเข้าไป ก็ไมไอน้ำอยู่ทั่วไป ดูแล้วน่าจะลงไปแช่น้ำจริงๆ ครับ น้ำอุ่นดี แถมใส มากๆ ด้วย แต่เราไม่มีเวลามากนัก เลยเดินชมรอบ ๆ เอามือ เอาเท้าจุ่มน้ำกันนิดหน่อย ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศ แล้วเราก็มาขึ้นรถ เพื่อเดินทางต่อไปที่ สะพานประวัติศาสตร์ กันครับ

ไม่นานนักเราก็มาถึงสะพานประวัติศาสตร์ สมัยสงครามโลก เดินเล่นถ่ายรูป มีชาวบ้านขายของริมทางกันนิดหน่อย อากาศยังเย็นอยู่ ควันยังออกปากกันอยู่เลยครับ เดินเล่นถ่ายรูปกันจนพอใจ เราก็ขึ้นรถเพื่อไปต่อกันที่ คอฟฟี่อินเลิฟ ที่ผมได้ยินมานานว่า ต้องไปให้ได้ ถ้าไปปาย

ที่คอฟฟี่อินเลิฟ แม่เจ้าผู้คนหลายร้อยคน เฮโลกันถ่ายรูป อร๊างงง เข้าไม่ถึงตัวอักษรที่เป็นที่นิยมถ่ายรูป ผมเหลือบไปเห็นตู้โทรศัพท์สีแดงน่ารัก ๆ อยู่อันนึง ไม่มีคน เราเลยไปถ่ายรูปตรงตู้นั้นกันครับ ถ่ายไปสองสามภาพ คุณพระ ผู้คนตามมาถ่ายกันเต็มไปหมด แอรายก๊านนนนนน....มากันทำม๊ายย เราต้องหนีหัวซุกหัวซุนกลับมาที่ตัวอักษรใหญ่เบิ้มเพื่อรอคิวถ่ายรูปกันบ้าง กว่าจะได้ถ่าย และกว่าจะถ่ายได้เล่นเอาเหนื่อยกันเลย ผมได้ love มาคำเดียว T T เห้อ...คนเยอะ แต่ก็นะ ต้องเข้าใจ มันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวไปแล้วนี่ คนไทยด้วยกันทั้งนั้น :) พวกผมเลยเข้าไปเดินเล่นถ่ายรูปด้านใน ยังคงมองเห็นกลุ่มหมอกหนาเตอะที่บริเวณภูเขา ด้านหลัง สวยดีครับ

ที่นี่เป็นที่สุดท้ายของทริปสั้นๆ ตอนเช้าของเรา กลับไปถึง ชีวาดอย ประมาณ 11 โมง ยังทันได้กินอาหารเช้า พี่หอย รีบเรียกแม่บ้านมาเสิรฟ ข้าวต้ม ขนมปังปิ้งให้เรา ส่วนเครื่องดื่มมี ชา กาแฟ น้ำส้ม น้ำเปล่า แต่ต้องไปตักเองนะครับ พี่หอยก็ใจดีครับมาคุยทักทายกับเราว่าไปไหนมาบ้างเป็นยังไง อาหารพอไหม ถ้าไม่พอบอกได้ หลังจากเรากินอิ่มกันแล้ว เราคิดว่าเราจะพักกันสักพัก แล้วออกไปขี่รถไปวัดไหว้พระ และไปเที่ยวเล่นใกล้ๆ กันดีกว่า แต่ปรากฎว่า เผลอหลับกันจนบ่าย รีบวิ่งออกไปเช็คเอาท์ เพราะเราต้องย้ายไปห้องแบบแสตนด์ดาร์ดกันวันนี้ พี่หอยทักว่า "เอ่อ แหมมาพักผ่อนกันจริงๆ เลยนะครับ" มีความหมายลึกๆ ว่า "เมิงมากันทำมาย" 555 พี่เค้าไม่ได้ว่าอะไรที่เราเช็คเอาท์ช้า ออกแนวขำๆ เรามากกว่า พวกผมย้ายห้องกันเรียบร้อยก็ออกไปเที่ยวเล่นกันต่อครับ


ผมขี่รถไปน้ำตก หมอแปง ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก เป็นน้ำตกเล็กๆ ที่ไม่ต้องเดินเข้าไปลึก กว่าจะถึงน้ำตกหลงทางไปสองที ถามทางกับคุณป้าที่เดินอยู่ระหว่างทางคนนึง ว่า "อ่าขอโทษนะครับ น้ำตกหมอแปง ไปทางไหนครับ" ป้าแกหันมาตอบว่า "โอ๊ะ เลยมาและ ต้อย้อนก่าไป แล้วเลี้ย ซ้าย น๊าา" พร้อมกับยิ้มหวานๆ พูดไม่ชัด แต่น่ารักครับใจดีจัง ผมเห็นคุณป้าอีกคนด้านหลังกำลังซักผ้าอยู่ลิมทางจากน้ำที่ทะลักออกมาจากสายยางขนาดใหญ่ คิดในใจว่า เลยมาแล้วเหรอ น้ำนี่น่าจะสูบมาใช้จากน้ำตกแหงๆ เลย สูบขึ้นที่สูงกว่าเหรอ แปลกดี พวกผมขี่รถกันไปเล่นกันไปหัวเราะกันลั่นป่า ไม่รู้จะฮากันไปไหน แต่เราก็ยังหาทางไปน้ำตกไม่เจอ เลยแวะถามคุณลุงที่ทำสวนอยู่แถวนั้น แกบอกว่าให้ย้อนกลับไปทางเดิมเมื่อกี้ ยังไม่ถึงสักหน่อย อ่าวกำ...ตกลง ป้าแกสับขาหลอกผม หรือ แกคุยกะผมไม่รู้เรื่องเนี่ย 555 ขี่รถย้อนกลับไปหัวเราะกันไป





พอไปถึงน้ำตก ก็รู้สึกเย็น ขึ้นเลย เราซื้อไก่ย่างกับขนมนิดหน่อยไปนั่งกินกันครับ บริเวณน้ำตกมีคนเล่นน้ำอยู่นิดหน่อย บางคนเอาเบียร์มานั่งกิน แช่มันในน้ำนี่แหละครับ เหมือนแช่ตู้เย็น น้ำค่อนข้างน้อย แต่อากาศเย็นมากๆ หนาวเลยก็ว่าได้ นั่งกินกัน มีน้องหมา มาทำหน้าน่าสงสารขออาหารตัวนึง มองหน้ามัน เออวะ หมายังหน้าแนวกะเหรียงเลย 555 หน้ามันซื่อๆ ฮาๆ น่ะครับ แบ่งมันกินนิดหน่อย พวกผมก็ถ่ายรูปกันก่อนจะขี่รถกลับเพื่อไปวัดไหว้พระกันสักหน่อย

พวกเราไปไหว้พระที่วัดศรีดอนชัย มีพระพุทธสิหิงค์ (พระสิงห์ปาย) ในตัวเมืองปายนี่แหละครับ พอไปถึง พระท่านก็ให้ พระมาแล้วก็ให้รูปพระกับเรา บอกเราว่าทำบุญกันตามศรัทธา พระท่านจะรีบไปงาน แถว ๆ นี้ ต้องไปงานศพ หรืออะไรสักอย่าง พวกผมเลยทำบุญ ระฆังที่จะแขวนรอบอุโบสถ ไปครับ ถ้าใครไป แวะทำบุญที่วัดนี้ก็ดีนะครับ :) กำลังจะสร้างโบสก์ กันด้วยครับ

ออกจากวัดเราก็กลับไปที่รีสอร์ท เพื่อเก็บของ อาบน้ำ แล้วออกไปเที่ยวที่ตลาดกันใหม่ วันนี้คิดว่าจะไปกินข้าวที่ร้าน บ้านปาย เพราะคนขับรถนำเที่ยวแนะนำเรามาครับ ร้านบ้านปายอยู่ในตลาดคนเดินตรงข้ามกับธนาคารออมสิน มีอาหารไทย อาหารฝรั่ง อาหารพื้นเมือง เราสั่ง ต้มยำกุ้ง(อันนี้ไปไหนก็สั่ง ผมชอบ) ผัดผักรวมมิตร ยำวุ้นเส้นหมูสับ ข้าวเปล่า และน้ำฝรั่งกับ แป๊ปซี่ กินกัน รสชาติดีครับ อร่อยดี บรรยากาศในร้านก็สบายๆ มีลูกค้าทั้งไทยทั้งฝรั่ง

จากนั้นเดินเล่นซื้อของฝาก ไปเจอร้านปริ๊นท์รูปถ่ายจากกล้องของเราให้เป็น Postcard ด้วยครับ เลยเอาสักหน่อย แผ่นละ 35 บาท 3 แผ่น 100 บาทครับ พอเราเดินเล่นกันจนพอใจแล้ว ก็กลับที่พัก เพื่อพักผ่อน กะว่าจะนอนให้สบายสักหน่อย แต่ว่า...ไอ้ห้องข้างๆ ครับ พี่น้อง ห้องข้างๆ มันคุยกันเสียงดังมากครับ ผู้หญิง 3 คนครับ โอ้วแม่เจ้า เม้าท์กันอย่างกับแม่คุณไม่เจอกันมา 3 ชาติ ไอ่นั่นกิ๊กใคร ไอ่นี่จีบใคร คุณเธอเม้าท์กันสนั่น ผมได้ยินเสียงชัดเจนขนาดว่า รู้ว่าพรุ่งนี้พวกคุณเธอทั้งหลายต้องตื่น 7 โมง เม้าท์กันตั้งแต่ 5 ทุ่มยัน ตี 1 เศษแล้ว ผมฟังเรื่องชีวิตครอบครัว การงาน ความรัก จนรู้ไปถึง เม็ดติ่งใน ตือโต๋ว ก็แล้ว...เธอก็ยังไม่หยุดเม้าท์กันครับ และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดซะด้วย

ในที่สุดผมก็เริ่มโมโห คนจะนอนโว้ย เม้าท์ห่านไรสามชั่วโมงไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เกิดมาไม่เคยได้เปิดปากพูดรึไง ทำงานก็ที่เดียวกันเมิงไม่เคยคุยกันเลยเหรอครับพี่น้อง คิดดูถ้ามันคุยกันไม่ดังจริงๆ จะรู้ห่านอะไรขนาดนี้ มันจะทนไม่ไหวแล้ว...และผมก็เลยพูดเสียงดังๆ ว่า "นอนกันซะทีเถอะครับ" เวลาตอนนั้นประมาณ ตี 2 แล้ว เจ๊ตตะม่อน กิน โทรโข่ง กันมาเหรอไงฟะ - -" พอผมพูดเสียงดัง พวกเธอหยุดพูดกัน 2 วิ แล้ว...แล้วแม่งก็คุยกันต่อ บระเจ้า ไอ่เม็ดติ่ง ไม่รู้จะด่าอะไรแล้ว แม่งงงงงงงงง ผมพยายามทำใจเย็นอดทนต่อไปอีกประมาณครึ่งชั่วโมงได้มั้ง และพวกเธอยังคงเม้าท์กันต่อไป ผมเลยไปเคาะประตูเลยครับ ไม่ไหวแล้ว ไปเคาะประตูปั๊ป เสียงในห้องเค้าเงียบ...ผมเคาะอีก เสียงตอบกลับมาว่า "มีอะไร" ผมเลยตอบว่า "ช่วยลดเสียงคุยหน่อยได้มั้ยครับ ดังมากนอนไม่หลับครับ" เงียบ....ไม่มีเสียงตอบรับ แม่โทรโข่งทั้ง 3 ยังแอบคุยกันต่อแต่เสียงเบาลง แล้วผมก็หลับไป

แล้ว...7 โมง นาฬิกาพวก แม่โทรโข่งก็ดัง เสียงกรี๊ดกร๊าด ระหว่างแม่คุณทั้งหลายเตรียมตัวก็ดังขึ้น อารายก๊านนนน แสดดดดดดด ไม่รู้จะด่าอะไร อยากจะเอาข้าวขาหมู ไปยัดปาก ให้เงียบๆ กันไป ว่ะหะหะ ในที่สุดก็ไปๆ สักที พอไปพวกผมเลยได้นอนต่อกันอีกนิดหน่อย แล้วก็ตื่นสายกันอีกครั้ง 555 ตื่นมาเก็บของเช็คเอาท์ พี่หอยหัวเราะ บอกว่า "แหม...พักกันเต็มที่แล้วใช่มั้ยครับ" พร้อมรอยยิ้ม แม่งเอาอีกแล้วกูมาเพื่อนอนจริงๆ 555

4 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ได้ดูวิวเลย ดูแต่ของกิน อิอิ

    ตอบลบ
  2. heyy pretty~~
    i just followed you. hope you'll follow back^^

    ตอบลบ
  3. @Risyaa ขอโทดที่ตอบช้าครับ ขอบคุณที่ follow นะครับ

    ตอบลบ