วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ทริปบ้านเฉลียงลม เกาะล้าน พัทยา

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมหนีไปเที่ยวเกาะล้านมาครับ ตัดสินใจแบบปัจจุบันทันด่วน ไปโดยไม่ได้เตรียมการล่วงหน้าอะไรเลย และเป็นโชคดีของกระผมที่บังเอิ๊ญ บังเอิญ บ้านเฉลียงลม มีห้องพักว่างอยู่ 1 ห้องพอดิบพอดี เอาวะ ที่นี่แหละ เห็นในพันทิพลือกันว่าดี เอาซะหน่อย โฮะๆๆ

ผมออกจากกรุงเทพฯ เวลาประมาณบ่ายโมงครับ เนื่องจากมีธุระตอนเช้านิดหน่อย ขับรถไปเรื่อยๆ จนถึงพัทยา แล้วเอารถไปจอดที่รับฝากรถตรงบริเวณท่าเรือ บาลีไฮน์ คืนนึง 100 บาทครับ จากนั้น เราก็แบกเป้ เดินไปท่าเรือ แต่โชคร้ายของผมนิดนึง ที่ไปถึง เรือก็ออกไปพอดี เลยต้องรอเรือรอบถัดไปคือ 5 โมงเย็น โอ้ว พระเจ้ายอด มันจอร์ช มากครับ ค่าโดยสารเรือไปเกาะล้าน คนละ 20 บาทเท่านั้นครับ ไม่ต้องไปจ่ายแพงนั่ง speed boat เพื่อกระแทกผิวน้ำทะเลให้ปอดสลับข้างกันเล่น นั่งเรือธรรมดานี่แหละครับ ช้าหน่อย แต่ไปแบบสบายๆ



หลังจากใช้เวลาบนเรือประมาณ 40 นาที เราก็มาถึงท่าเรือ หน้าบ้านครับ เกาะล้านจะมีอยู่สองท่าเรือ ซึ่งบ้านเฉลียงลมอยู่ บริเวณท่าเรือหน้าบ้าน เมื่อไปถึง เราก็โทรศัพท์ให้คนของรีสอร์ทมารับครับ ชื่อคุณสอง ใจดีมากครับ มารับเราที่ท่าเรือด้วยรถ มอเตอร์ไซด์แบบมีต่อที่นั่งด้านข้าง อ๊ะๆ อย่านึกว่าเหมือนเมืองนอกครับ ต่อแบบไทยๆ ครับ ที่นั่งเป็นไม้ โฮะๆ เรามากันแค่สองคน สบายๆ ครับ

เมื่อไปถึงที่พัก เป็นเวลา เกือบจะ 6 โมงแล้ว แต่ฟ้ายังไม่มืด เราจองห้องบุษบาไว้ครับ เป็นห้องพักสำหรับ 2 คน ราคาคืนละ 1000 บาทครับ เรียกว่า ได้บ้านน่ารัก ๆ หลังนึงเลยทีเดียว เพราะมีรั้วไม้กั้นเป็นบริเวณส่วนตัว มีมินิบาร์ อยู่ด้านข้างตัวบ้านครับ มีบริเวณสำหรับซักล้างด้วย หน้าทางเข้าห้องพัก จะมีชุดเก้าอี้สำหรับนั่งเล่นอยู่ มีต้นลีลาวดี ปลูกอยู่รอบ ๆ บ้านครับ ดูร่มรื่น ประตูทางเข้าห้องพักเป็นกระจกบานใหญ่ๆ เลยครับ มีผ้าม่านสีขาวทั้งหลัง

ชะว๊าบบ...เข้ามาถึงในห้องพัก ก็ชื่นใจครับ เพราะดูโล่ง สบายตา จัดได้น่ารักดีครับ มีเตียงนอนขนาดใหญ่ ดูน่านอน ทีวี แอร์ และพัดลมให้อีกหนึ่งเครื่อง ภายในห้องมีที่นั่งเล่นด้วยครับ เค้าจัดได้น่าพักผ่อนจริงๆ ผมเลยรีบเก็บภาพภายในห้องพักก่อนที่มันจะถูกผมทำให้เละเทะ ว่ะหะหะหะ


มาดูโซนห้องน้ำกันบ้าง เปิดประตูกระจกจากห้องนอนเข้ามา ด้านขวาจะเป็นห้องน้ำครับ มีน้ำอุ่นนะครับพี่น้อง ^ ^ ห้องน้ำสะอาดสะอ้านดี และที่สำคัญครับ ทางรีสอร์ทเค้าจัดส่วนของตู้เสื้อผ้า ไว้อีกด้านครับ ดูเป็นสัดส่วนดี ลืมบอกไปว่า ตู้เย็นอยู่ในโซนนี้ด้วยครับ แล้วก็มีประตูสำหรับออกไปด้านข้างของบ้านครับ
หลังจากพักผ่อนกัน เราก็เดินมาที่ชายหาดของบ้านเฉลียงลมครับ เป็นหาดส่วนตัวเล็กๆ ที่ทรายไม่ละเอียดเท่าไหร่ แต่ที่นั่งนี่สิครับ ได้ใจสุดๆ เค้าจัดเป็นที่นั่งน่ารัก แล้วก็มีเบาะแล้วก็หมอนเล็ก ๆให้อิงครับ มีเหล้าปั่น และเครื่องดื่มอื่นๆ บริการ ผมสั่งเหล้าปั่น รสแอ๊ปเปิ้ล ราคาเหยือกละ 120 บาท อร่อยดีครับ เลยสั่งปลาหมึกย่างมาด้วยเลย 120 บาทเหมือนกัน สดมากครับ แล้วเราสามารถสั่งอาหารจากที่อื่นมาได้ด้วย เราต้องไปหยิบจานมาเองนะครับ แต่เค้าให้ใช้ได้เต็มที่ โฮะๆ ชอบเลย สั่งอาหารมาอีก 200 บาท แต่กินกันไม่หมดครับ นอนดูดาว มองไปเห็นแสงไฟจากฝั่งพัทยา สวยดีครับ

ตื่นเช้ามา เราก็ไปเที่ยวหาดตาแหวนครับ เก็บของ เช็คเอ้าท์ ออกตอนเที่ยง เสียดาย อยากอยู่นานกว่านั้นครับ เพราะว่าติดใจที่พักจริงๆ โฮะๆ แต่ว่าไม่ได้ครับ ต้องกลับ เลยเก็บของออกไปเลย คุณสอง ก็ไปส่งที่ท่าเรือ แล้วเราก็นั่งรถต่อไปหาดตาแหวนเองครับ นั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้าง 2 คน 40 บาทครับ ไปถึงหาด คึกคักมาก เพราะเป็นท่าเรือด้วย นักท่องเที่ยวทั้งไทย ทั้งต่างชาติเยอะครับ แต่ไม่แออัด สบายๆ ครับ

เราเช่าเก้าอี้ชายหาดนั่งกัน ตัวละ 20 บาท ราคาไม่แพงเลย ถ้าแบบเป็นเตียงมีเบาะนอนก็ตัวละ 50 บาทครับ อาหารฝั่งนี้ไม่ได้แพง อย่างที่คิด ราคาถือว่าโอเค เลยครับ ใช้เวลานั่งเล่น นอนเล่น เดินเล่นชายหาดจนเกือบ สามโมงเย็นครับ ถึงจะเดินไปขึ้นเรือ ถือว่าเป็นวันที่ปล่อยตัว เฉื่อยแฉะดีจริงๆ ครับ ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีคอมพิวเตอร์ พักผ่อนสบายๆ ดีสุด ๆ เลย

กลับมาถึงฝั่งพัทยา ผมก็ออกเดินทางครับ ขับรถกลับทาง ถนนสุขุมวิท ตามถนนไปเรื่อยๆ ครับ สังเกตุทางซ้ายมือจะมีป้ายร้านอาหารมุมอร่อย ไม่ไกลมาก ผมแวะ กินข้าวเย็นที่นี่ ไปพัทยาทีไรต้องแวะร้านนี้ทุกครั้งเลยครับ อาหารเค้าอร่อยแล้วบรรยากาศก็ดีจริงๆ (ติดบรรยากาศ)

อาหารที่สั่ง มีต้มยำทะเล ยำปลาดุกฟู แล้วก็ ปลาหมึกชุบแป้งทอดครับอร่อยดี

บรรยากาศบริเวณที่ผมเลือกนั่งครับ ตอนนี้ตอนเย็นแล้วอากาศกำลังสบายๆ

นั่งกินข้าวแล้วก็นั่งเล่นกันจนเริ่มมืด พนักงานก็จุดเทียนให้ทุกโต๊ะ แบบนี้ ดูดีไปอีกแบบครับ

รูปอื่นๆ จะอัพตามมาทีหลังนะครับ คนเขียนง่วงแล้ว ขอตัวไปมุดหมอน (อ่านดีๆ) หมอนนะครับหมอน นอนก่อนดีกว่า

สามารถดูรูปเพิ่มเติมได้แล้วครับ http://twitpic.com/photos/shin69


ที่พักพัทยา

วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2552

วันแม่...นินทาแม่ดีฝ่า

สวัสดีครับ ท่านเขียดผู้มีแกก(แขกผู้มีเกียรติ) ทั้งหลาย เดือนสิงหาคมทีไร สิ่งที่นึกถึงคือเดือนนี้ เป็นเดือนที่มีวันแม่ วันนี้ ผมเลยอยากจะขอแนะนำให้รู้จักกับสุภาพสตรีท่านนึง ที่เลี้ยงกระผมมาครับ ถะ ถะ ถูกต้อง นะคร๊าบบ แม่กระผมเองครับ

แม่ผมเป็นผู้หญิงวัยกลางคน ตัวขาวๆ เล็กๆ กลมๆ ยิ้มง่าย ซื่อ ขี้เล่นและบางครั้งก็เล่นขี้ เวลาหัวเราะก็หัวเราะได้บ้านแตกกันเลยทีเดียว แม่เป็นคนใจดี ทำกับข้าวขายไม่ได้ ไม่ใช่ไม่อร่อยนะครับ แต่ขาดทุนแน่นอน ลดแลกแจกสะบัดครับ

แม่ผม อารมณ์ดี มีอารมณ์ขัน มาก ๆ ครับ มองเรื่องต่าง ๆ ให้กลายเป็นเรื่องสนุกสนานกันไป หัวเราะถึงขั้นหงายหลังตกเก้าอี้แม่ก็เคยมาแล้ว มีอยู่วันหนึ่งน้องสาวผมกลับบ้านพร้อมแผลที่นิ้วก้อยเท้า แม่รีบถามว่าไปโดนอะไรมา
น้องสาว: ไปเตะโดนมุมกระจกที่ทำงานอ่ะแม่ เลือดสาดเลย
แม่: อืม...งั้นก็โชคดีแล้วล่ะ
น้องสาว: ทำไมอ่ะ เจ็บจะตายนะ
แม่: เสียเตะมุมดีแล้ว ดีกว่าเสียลูกโทษ

แม่ผมกวนดีใช่มั้ยครับ ^ ^ แน่นอนล่ะ แม่มีมุกใหม่ๆ มาเล่นกับลูกเสมอ เช่น ได้ยินเด็กวัยรุ่นด่ากันด้วยคำแปลกๆ แม่ก็เอากะเค้าด้วยครับ นั่งดูทีวีด้วยกัน แม่พูดว่า "แสดดดด" แม่มีฉายา ที่แม่สถาปนาตัวเอง ว่า "เจ๊กุ๊งกิ๊ง" เนื่องจากแม่เคยไปขายโมบายเซรามิค เพราะอยู่บ้านแล้วเหงา เสียงโมบายดังกุ๊งกิ๊งๆ นั่นคือที่มาของฉายาแม่ เจ๊กุ๊งกิ๊ง ใหญ่นะครับ ผูกมิตรกับบรรดาแม่ค้า แล้วสถาปนาเป็นแก๊งค์แม่ค้า โดยมีเจ๊กุ๊งกิ๊ง เป็นผู้นำ วิธีผูกมิตร คือ เจ๊กุ๊งกิ๊งไปเที่ยวตลาดครับ ซื้อหลายๆ อย่างไม่ได้เพราะอยากกินนะครับ แต่สงสารเพื่อนครับ ทำให้บรรดาแม่ค้า รักเจ๊กุ๊งกิ๊งกันทุกคน แม้ว่าแม่จะเลิกขายไปนานแล้ว แต่ความเป็นเจ๊กุ๊งกิ๊งยังคงอยู่ในสายเลือดครับ ทุกวันนี้ เมื่อไหร่ที่แม่เห็นร้านขายโมบาย แม่จะทำหน้าตาขึงขัง แล้วชี้ให้ผมดูร้านนั้น แล้วพูดว่า "เห้ย มันแย่งตลาดอั๊วะ" ลูกๆ ต้องคอยห้ามปรามกันไป

แม่ผมชอบละครช่อง 3 ครับ รักช่อง 3 มากชอบดารา โดยเฉพาะ อั้ม อภิชาติ เนื่องจาก แม่อกหัก จากการที่ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ แต่งงาน แม่ทำใจสามวันครับ แล้วบอกว่าต่อไปจะรักอั้ม ไม่นอกใจอั้มแล้ว... และแม่ชอบคิดว่า เวลาที่แม่พูดถึงดาราคนไหน ผมจะต้องเข้าใจว่าแม่หมายถึงใคร ตัวอย่างเช่น....

นั่งดูทีวีด้วยกัน แม่ผมพูดถึงดาราชายว่า...
แม่: เอ้อ ไอ่คนนั้นน่ะ ที่มันตาเหลือกๆ น่ะ ชื่อไรนะ
ผม: - -"
แม่: เอ้า ก็ไอ่ที่มันตัวใหญ่หน่อย แต่ไม่ใช่ไอ่ตาปรือนะ
ผม: - -a ????
แม่: โธ่ ก็ไอ่คนนั้นไง ที่ไม่ใช่ไอ่ตาส่อนน่ะ
ผม: แม๊.... แล้วใครคือ ตาเหลือก ตาส่อน แล้วก็ตาปรือล่ะคร๊าบบบบ

แม่ชอบละครมาก อินกับละครเรื่องไหน แม่จะเปลี่ยนชื่อ เป็นตัวละครในเรื่องนั้น ล่าสุดเรียกตัวเองว่า ปลายฟ้า แล้วเรียกพ่อผมว่า ตะวัน ตอนนี้แม่กำลังเริ่มอินกับละครเรื่องใหม่อยู่ ผมไม่รู้ว่า ชื่อใหม่ของแม่จะเป็นอะไร ฮาฮา นอกจากละครแล้ว แม่สามารถดูทีวีได้กับลูกทุกคน เวลาผมดูบอล แม่ดูด้วยครับ มีสีสันมากๆ ครับ เวลาดูบอลกับแม่ ถ้าแม่ดูด้วยละก็ บอลคู่นั้นจะเป็นแมตช์หยุดโลกครับ ความตื่นเต้นและการเชียร์ของแม่ จะคล้ายๆ กับสนามมวยลุมพินีครับ เพราะแม่จะกรี๊ดกร๊าด ไม่ก็ร้องโอ๊ยๆ เวลาที่ลูกบอลถูกพามาใกล้กรอบเขตโทษ ไม่ว่าจะยิงโด่งแค่ไหน คุณจะรู้สึกว่า มันเฉียดเสาไปนิดเดียว ถ้าคุณฟังเสียงแม่ผมลุ้น 555 ได้อารมณ์ไปอีกแบบครับ แต่ถ้าดูหนังสยองขวัญที่ต้องวิ่งหนีซอมบี้ หรือ ฆาตกรโรคจิตล่ะก็ หลีกเลี่ยงการดูกับแม่จะดีกว่าครับ เพราะแม่ผมจะร้องทรมาน อย่างกับโดนมีดกรีดซะเองครับ บางครั้งมีการเชียร์ด้วย "เอ้ย!!! วิ่ง (เสียงสูง ๆ ) หนีเร๊ววววววว" ทำเอาคนที่ดูด้วยกัน ลุ้นจนจะขาดใจตาย

แม่ผมไม่ได้มีมุมขำ ๆ อย่างเดียว เวลาที่ผมท้อแท้ เหนื่อยใจ หรือหมดหวัง แม่จะยอมให้ผมนอนตัก เป็นกรณีพิเศษ นอนตักแม่แล้วมีความสุขครับ ขาเล็กๆ อวบ ๆ ของแม่ อุ่นเสมอสำหรับผม ไม่ว่าผมจะเรียนจบแล้ว และทำงานมาหลายปี แต่ผมยังรู้สึกเหมือนกับผมยังเด็กมาก เวลาที่ได้หนุนตักแม่ ไม่ว่าผมจะผิดพลาดอะไรมากมายแค่ไหน แม่จะยังอยู่ข้างผมเสมอ ผมเคยเสียใจกับเรื่องความรักมากมายขนาดที่กินข้าวไม่ได้เป็นเดือนๆ จนผอมซูบ แม่ร้องไห้เมื่อเห็นผมพยายามจะยัดข้าวเข้าปาก แต่ก็ต้องอ้วกออกมาทุกครั้ง แม่พูดด้วยเสียงสั่นๆ กับผมว่า "พยายามกินหน่อยนะลูก" จากครั้งนั้นทำให้ผมรู้ว่า แม่คือผู้หญิงที่ดีที่สุดในชีวิตผม ต่อไปถึงผมจะต้องเจอความผิดหวังร้ายแรงกว่าครั้งก่อน ผมก็จะไม่มีวันทำให้แม่ต้องทุกข์ใจกับผมแบบนั้นอีก

ผมไม่ใช่ลูกที่ดีนัก เกเร เสเพล เอาแต่ใจ แล้วก็นอกลู่นอกทางบ่อย ทำผิดพลาดซะจนเป็นปกติ พูดดีๆ ก็ไม่ค่อยเป็น หาเงินเลี้ยงแม่ให้สบาย ก็ยังทำไม่ได้ วันนี้ผมอยากบอกแม่ว่า "แม่...ผมขอโทษนะครับ ที่ผมไม่ค่อยจะได้อย่างใจแม่สักเท่าไหร่ ขอโทษครับที่ผมดื้อและไม่ค่อยจะอยู่ในโอวาทแม่ ผมขอโทษที่ทำให้แม่เสียใจและเสียน้ำตากับผมในทุก ๆ เรื่อง และ ผมขอบคุณครับแม่ ที่แม่เลี้ยงผมมาจนโต ขอบคุณแม่ที่ส่งเสียผมจนจบ ขอบคุณที่แม่ให้บทเรียนต่างๆ กับผม ขอบคุณแม่ที่เข้าใจและให้โอกาสลูกที่ไม่เอาไหนอย่างผมมาตลอด ขอบคุณที่แม่ให้ผมเกิดมา"

ขอบคุณโชคชะตาที่ให้ผมได้กำเนิดมาเป็นลูกของผู้หญิงที่ดีที่สุดในโลก และสุดท้าย ผมรักแม่นะครับ

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ขี้อย่างสงบ และกรุณาตดเท่าที่จำเป็น(ได้มั้ยครับ ขอร้อง)

ผมเป็นคนนึงที่ต้องใช้บริการห้องน้ำสาธารณะบ่อยครั้ง โดยเฉพาะห้องน้ำที่ทำงาน ชั้นที่ผมประจำอยู่มีห้องน้ำแค่สามห้อง แต่สะอาดมากๆ ครับ แต่...ปัญหามักจะมาเวลาที่ต้องการถ่ายหนัก ขออนุญาต เรียก ขี้ ตามประสา 555 เวลาปวดขี้นี่แหละครับปัญหา เพราะว่า ผมชอบจะขี้ ในที่ ๆ สะอาด เงียบ ไม่งั้น บิวท์ ไม่ได้ ทีนี้อุปสรรคต่างๆ ของผมมีดังนี้

1. อุปสรรคจากเพื่อนสัปดน
เพื่อนผมครับมันจะแอบตามมาครับ เวลาผมไปขี้ เพื่อทำลาย สมาธิ และความสมดุลย์ของบรรยากาศของผม

วิธีการ: มันจะรอจนผมเข้าห้องน้ำได้แป๊ปนึงครับ แล้วมันก็ยกขโยงหรืออย่างน้อยสองคน มาเคาะประตูห้องน้ำที่ผมเข้า แล้วพูดว่า "ฮาโหลๆ ขี้เหรอ ๆ", "ยู้ฮูว์ ทำไรอยู่หราาาาา", "เหงามั้ยๆ"....แม่ง มาขี้นะครับ ไม่ได้มาปิ๊กนิก ถามทำไม ขี้เหรอๆ ทำไรอยู่ ไอ่เพื่อนบ้า

ผลลัพธ์: หมดกัน!! สร้างมากับมือ ไอ่ที่บิวท์ได้เมื่อสักครู่ หด หมด ครับพี่น้อง T T ต้องยอมแพ้ เก็บผ้าเก็บผ่อน เดินคอตกกลับออกมา พร้อมเสียงหัวเราะฮากันลั่น "เออ...พวกเมิงทำสำเร็จ"

ค่าความเสียหาย : 25-30%

2. อุปสรรคจากพนักงานทำความสะอาด
พนักงานทำความสะอาดสุดขยัน ทำไม ต้องมาทำความสะอาดห้องน้ำข้าง ๆ ระหว่างที่ผมกำลังปฎิบิติภาระกิจระดับชาติครับ

วิธีการ: คุณพนักงาน เค้าจะจัดการเก็บขยะ กวาด ถูพื้นน่ะครับ ส่งเสียง ตึง ตัง ตุ้บ ตึก ๆ โต๊ะๆ ตลอดครับ ผมชอบที่เงียบ แต่ดันมีคนมาเคาะจังหวะให้ จะปล่อยตามจังหวะก็กลัวจะผิดคีย์ เดี๋ยวคุณพนักงานจะเคืองผมที่ไปทำลายจังหวะเค้า ไม่เสี่ยงดีกว่าครับ

ผลลัพธ์: เสียจังหวะ ทำให้ต้องเพิ่มพลังในการบิวท์ขึ้นอีกเท่าตัว แต่ยังพอไปต่อได้ครับเพราะคุณพนักงานจะเก็บกวาดแค่แป๊ปเดียว แค่ต้องอดทนรอจนเค้าไป ยังขี้ได้แต่ดีเลย์นิดหน่อย ว่ะหะหะ

ค่าความเสียหาย: 15%

3. อุปสรรคจากผู้มาเยือน (หนักที่สุด)
ขณะที่กำลังปฏิบัติภาระกิจระดับชาติ(ขี้) ก็ได้ยินเสียงฝีเท้า ตรงมาที่ห้องน้ำ...แล้ว...แล้ว...ใช่ครับ แม่งมาเข้าห้องข้างๆ ครับ

วิธีการ: มาเข้าห้องข้าง ๆ ครับ แต่พวกเค้าจะรีบกว่าครับ คือมาถึงก็ ส่งเสียงข่มผมทันที โอ้แม่เจ้า กูยังบิวท์อยู่เลย มาถึงคุณพี่ก็ทิ้งบอมบ์กันแบบไม่เกรงใจกันสักนิด เสียงลอดข้ามห้องมา บางคนก็เป็นจังหวะ ชะชะช่า พาเพลิน แต่บางคน มาเป็นแนว เมทัลร็อค อ่ะโหย บวกกับบางคนที่ใช้เสียงเบส เข้าช่วย (ตด) กระหึ่มกันไป สุดความสามารถที่จะทนฟังครับ

ผลลัพธ์: หมดก๊านนนนนนนนนน!!! คิไม่เอาะ (ขี้ไม่ออก) เพราะสถานการณ์คล้ายสนามรบแล้วมีดนตรีสดมาเล่นโชว์ อะโหย ต้องเก็บผ้าเก็บผ่อนตามเคยเดินคอตกออกมาตามเคย เพราะน้องอุนจิที่กำลังจะออกมา ด๊านน ตกกะใจเสียงซาวน์เอฟเฟค จากห้องข้างๆ หลบกลับเข้าไปใหม่ แม่มเอ๊ย...

ค่าความเสียหาย: 100% ทำเอาไม่อยากขี้ไปเลยทั้งวันครับ - -"

จากประสบการณ์ที่เล่ามา ผมพบว่า ผมอยากให้ห้องน้ำสาธารณะมีป้ายรณรงค์สักหน่อย "ขี้อย่างสงบ และตดเท่าที่จำเป็น" จะช่วยให้ มนุษย์ขี้ยากอย่างผม ได้มีโอกาสขี้แบบสบายใจบ้างน่ะครับ เห้อ พูดถึงขี้ก็หิวข้าว...

อ่านจนจบแล้ว ยังหาสาระไม่เจอใช่มั้ยครับ ไม่ต้องตกใจ เพราะมันไม่เคยมีแต่แรกแล้ว ว่ะหะหะหะหะ