วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

อุบัติเหตุทางท้องถนน คร่าชีวิตและทรัพย์สิน จากความประมาทของคนไม่กี่คน

สวัสดีครับ หายหน้าหายตาไปนานไม่ได้เข้ามาอัพเดท blog เลย เนื่องจากว่า กระผมประสบปัญหาร่ำรวยทางการงาน แต่ยากจนทางการเงิน 555 พูดง่ายๆ ว่างานท่วมกระบาลนั่นเองครับพี่น้อง ว่าจะกลับมาเขียนก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีกครั้ง และมันเป็นครั้งที่ผมรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ จับใจนะ ไม่จับนมข้างซ้าย

เรื่องของเรื่องคือ ป๊ากับม๊า ของกระผม หรือที่เคยแนะนำกันใน blog ในนามของ เจ๊กุ๊งกิ๊งและสามี แอบหนีลูกๆ ไปเที่ยว นั่งรถทัวร์ไปกันตามลำบาก ทั้งสองเล่าให้ผมฟังว่า เมื่อถึงบริเวณ จ.สระแก้ว ได้มี มอเตอร์ไซด์คันหนึ่งตัดหน้ารถทัวร์ที่บุพการีกระผมประทับอยู่ ทำให้คนขับรถตกใจ หักหลบกระทันหัน รถทัวร์คันใหญ่เบิ้ม พุ่งข้ามเกาะกลางถนน แล้วตกลงไปข้างทาง ป๊ากับม๊าเล่าว่าทุกอย่าง กลิ้งตลบมั่วไปหมด เจ๊กุ๊งกิ๊งเกาะเบาะรถพร้อมกับพยายามเซฟหัวตัวเอง ส่วนป๊า พยายามจับเจ๊กุ๊งกิ๊งเอาไว้ แต่ไม่อยู่!! ป๊ะป๋า ถูกแรงกระชากจากการกระแทกของรถ หลุดไป ทุกอย่างน่ากลัวมาก เสียงผู้คนกรีดร้อง ดังไปทั่ว รถก็หมุนกลิ้งหลายตลบและในที่สุดก็หยุดลง ทั้งสองปลิวไปคนละทาง พ่อผมบาดเจ็บ ที่หัวมีแผลถลอก ฟกช้ำ ขาเจ็บ รีบลุกขึ้นมาวิ่งตามหาเจ๊กุ๊งกิ๊งที่ซากรถ

พ่อเล่าว่า ร้องตะโกนเรียก ตอนนั้นนึกว่าได้โอกาสหาภรรยาใหม่แล้ว 555 ในเวลาเดียวกัน เจ๊กุ๊งกิ๊งรู้สึกว่า ตัวเองขยับไม่ได้แกติดอยู่ใต้เบาะนั่งของตัวเอง และบนเบาะก็มีผู้หญิงคนนึงถูกบางส่วนของซากรถ ทับครึ่งตัว อยู่บนเบาะที่ครอบเจ๊กุ๊งกิ๊งเอาไว้อีกที เจ๊กุ๊งกิ๊งถาม อาแปะคนนึงที่กระเด็นมาอยู่ใกล้ๆ ว่า "เฮีย ลื้อเป็นไรไหม" อาแปะคนนั้นตอบว่า "ไม่เป็นไร" สักพัก เจ๊กุ๊งกิ๊งได้ยินเสียงโหวกเหวก ของหน่วยกู้ภัยว่า "เห้ย อาเฮียคนนี้ตายแล้วๆ" เจ๊กุ๊งกิ๊งตกใจ เพราะยังไม่รู้ว่า แฟนเจ๊(พ่อผม) จะเป็นหรือตาย แกร้องไห้ เรียกหา ทำให้ พ่อผมที่วิ่งหาอยู่ได้ยินเสียง เลยหา เจ๊กุ๊งกิ๊งเจอ

พ่อบอกให้เจ๊กุ๊งกิ๊งออกมาจากใต้เบาะ แต่เจ๊กุ๊งกิ๊งเล่าว่า ตอนนั้นรู้ตัวแล้วว่าขาหัก เลยบอกกับพ่อว่า ออกไม่ได้ ขาคงหักแล้ว ต่อมาถึงรู้ว่า อาแปะที่คุยกะเจ๊กุ๊งกิ๊งเสียชีวิต เพราะคอหัก สรุปเหตุการณ์ในครั้งนี้ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 คน และ 1 คนสูญเสียขาทั้ง 2 ข้าง นอกนั้น ต่างบาดเจ็บทุกคน

กว่าผมจะรู้ข่าว ก็ปาเข้าไป 4 โมงเย็นแล้ว ผมยอมรับว่ากลัว กลัวจะสูญเสียพ่อแม่ไป รู้สึกว่า มันเฉียด และอยากกระโดดถีบคนขี่มอเตอร์ไซด์คันนั้นด้วย 2 ขาคู่สัก 100 ที ถ้าพ่อแม่ผมเป็นอะไรไป ชีวิตมันยังไม่พอเลย แค่ความประมาทของเค้า ทำให้พ่อแม่ผมต้องบาดเจ็บ ตั้งแต่เล็กจนโต ผมไม่เคย เจ๊กุ๊งกิ๊งเป็นแผลใหญ่ขนาดนี้ ครั้งนี้ ม๊าสะโพกด้านซ้ายหัก เท้าด้านขวา เนื้อเปิดถึงกระดูก พ่อตัดสินใจย้าย เจ๊กุ๊งกิ๊งมาผ่าตัดที่กรุงเทพฯ พวกผมรออยู่ที่บ้าน เพราะแกยื่นคำขาดว่าห้ามขับรถตามไปเด็ดขาด เพราะอาจจะสวนกัน และถนนมืดมาก

เจ๊กุ๊งกิ๊งมาถึงกรุงเทพฯ ในอีกวันถัดมา เวลาประมาณ 6 โมงเย็น เข้าห้องผ่าตัดเช้าวันถัดมา ใช้เวลาผ่าตัดใส่เหล็กขันน๊อต ทั้งหมด 4 ชั่วโมง แผลที่สะโพกยาวประมาณ 11 นิ้วครับ เกือบฟุต เชียวนะ!! สงสารเขามาก เจ๊กุ๊งกิ๊งผิวบาง เจ็บง่าย ช้ำง่าย แต่มาคราวนี้ ต้องผ่าตัด ต้องเย็บหลายเข็มทั้งที่สะโพกและเท้า คงจะทรมานสุดๆ ผมนอนเฝ้าแกอยู่ที่โรงพยาบาล สลับกับ พ่อ และน้อง แกไม่สามารถ ยันตัวลุกขึ้นนั่งเองได้ เพราะฉะนั้น ต้องคอยป้อนข้าวป้อนน้ำ เช็ดตัว พยุงขึ้นนั่ง คอยขยับขาให้ ในที่สุดหลังจากผ่านไป 6 วัน เราก็พา เจ๊กุ๊งกิ๊งกลับบ้าน ถึงตอนนี้ เจ๊สามารถ ยันตัวขึ้นนั่งเองได้ แต่ยังลุกเองไม่ได้ และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากกว่านั้น ผมจึงขออนุญาตบอสเป็นกรณีพิเศษ ที่จะทำงานอยู่บ้านบ้างบางวัน เพื่อดูแล เจ๊แก และบอสผมใจดี อนุญาตครับ :)

จนถึงวันนี้ ผ่านไปครึ่งเดือน เจ๊กุ๊งกิ๊ง สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น แต่ยังลุกยืนไม่ได้ ต้องมีคนช่วยพยุงมาจับอุปกรณ์ช่วยเดิน ผมเรียกไม่ถูกว่าคืออะไร แต่เอาเป็นว่ามันช่วยเจ๊แกเดินได้นิดๆ หน่อยๆ สภาพจิตใจดีขึ้น แผลผ่าตัดแห้งแล้ว

ผลประโยชน์ที่ได้คือ... กระเช้าครับ กระเช้า เต็มบ้าน แบรนด์ซุปไก่เป็นร้อย รังนกเป็นร้อย และนมสด เป็นร้อย.... จะบ้าครับ

ระหว่างที่เจ๊เจ็บผมได้เรียนรู้คือ...งานบ้านยาก ทำกับข้าวยาก ซักผ้าไม่ยากเพราะเครื่องช่วยเราได้ แต่...รีดผ้ายากมาก ต่อไปจะช่วยเจ๊กุ๊งกิ๊งทำ ถึงจะทำไม่ค่อยเป็น :)

และผลประโยชน์ที่ได้จากความประมาท คือ... เสียชีวิต ทรัพย์สิน ผู้อื่นเดือดร้อน รู้อย่างนี้แล้ว เด็กแว๊นท์ทั้งหลายจงระวัง เพราะผมได้ข่าวว่า ไอ้คนขี่มอเตอร์ไซด์นั่นนิ้วขาด 4 นิ้ว ไม่รู้ผมควรจะสงสารหรือสมน้ำหน้าเค้าดี

อยากจะเอารูปแผลผ่าตัดกับแผลที่เท้าของแม่ให้ดู แต่กลัวจะรับไม่ได้กันซะ อย่าดีกว่าครับ :)